ความรู้การตลาด

โรงงานผลิตน้ำหอมคิดต้นทุนต่อขวดอย่างไร

โรงงานผลิตน้ำหอม งามดีช้อปปิ้ง

ถ้าอยากได้  ต้นทุนต่อขวดราคาถูก  ต้องทำอย่างไร

ต้นทุนสินค้าของโรงงานผลิตน้ำหอมประกอบ  สินค้าต่อชิ้น ค่าส่ง ค่าแพคของ โดยทั้งนี้มิ้วจะมาพูดถึงต้นทุน

ในความหมายของสินค้าต่อชิ้นนะคะ

ต้นทุนสินค้า (น้ำหอม) พร้อมขาย ประกอบด้วย ขวด + ค่าบรรจุ + น้ำหอม + ค่าออกแบบ + ค่าแรง + ค่าสติกเกอร์

แต่คุณลูกค้าค่า จะทราบไหมว่า กว่าโรงงานผลิตน้ำหอมจะส่งสินค้าให้ลูกค้าแต่ละล็อตนั้น มีกระบวนการและวิธีคำนวณออย่างไรบ้าง

ต้นทุนของโรงงานผลิตน้ำหอม

  • ขวด

ปัญหาของขวดคือ แตก หรือเป็นรอย มีความไม่เรียบร้อย ฉะนั้น ในทุกออเดอร์ของลูกค้า เราจะสั่งขวดเกินออเดอร์ประมาณ 3-5 % เสมอ เช่น ลูกค้าสั่งน้ำหอม 200 ขวด มิ้วก็จะต้องขวด 210 ขวด เพื่อจะได้มีอุปกรณ์ไปเปลี่ยนส่วนที่มีปัญหาหรือที่ไม่เรียบร้อย และในการสั่งขวดแต่ละออเดอร์สั่งมากก็ได้ราคาส่งที่ถูกกว่าออเดอร์ที่สั่งในปริมาตรขั้นต่ำ อยู่แล้วเป็นปกติ

  • น้ำหอม

ขวดทุกไซส์ที่แจ้งว่าปริมาณบรรจุ 10 ml. เวลาบรรจุให้เต็มขวด ก็จะต้องบรรจุ 12 ml. ขวดขนาด 30 ml. ก็จะต้องบรรจุให้เต็มขวด 35. ml จึงจะสวย ไม่งั้นก็จะดูว่าเติมน้ำหอมไม่เต็มขวด เพราะฉะนั้น ปริมาณน้ำหอมก็จะมากกว่าตามขวดแจ้ง

หัวน้ำหอมทุกกลิ่นที่ร้าน เป็นน้ำหอมในเข้า และขั้นต่ำในการสั่งน้ำหอมของแต่บริษัทก็ไม่เหมือนกัน บางบริษัท ขั้นต่ำ 5,000 ml. หรือ บางบริษัทก็  2,000 ml.

  • ออกแบบ

ปกติ ทางบริษัท งามดีช้อปปิ้งจะออกแบบสติกเกอร์ให้ฟรีอยู่แล้ว เนื่องจากขนาดสติกเกอร์ของแต่ละขวด มีไม่เยอะมาก จึงไม่สามารถใส่ลวดลายอะไรได้มาก แต่ในการออกแบบแต่ละแบบก็จะใช้เวลา เนื่องจาก เราต้องทำในไฟล์ .ai เพื่อใหเวลาพิมพ์มีความคมชัด และสามารถปรับแก้ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

  • ค่าแรง

เนื่องจากการผลิตน้ำหอมของเราทำในระบบบริษัท ค่าแรงเป็นต้นทุนสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งบริการด้านการ blend การประสานงาน แพ็คของ ส่งของ ทุกอย่างล้วนมีต้นทุนค่าแรงทั้งสิ้น

ฉะนั้น การที่ลูกค้าอยากจะได้ราคาต้นทุนที่ถูก กว่าราคาขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด คุณลูกค้าก็ต้องมีออเดอร์ในปริมาณที่มากพอสมควร คือ ลูกค้าต้องรู้ว่าตัวเองอยากได้ต้นทุนที่ราคากี่บาท ทางบริษัทก็จะคำนวณให้ได้ว่าจะต้องผลิตขั้นต่ำกี่ขวด ตามหลัก Economy of scale นั่นเองค่ะ

ต้นทุน คือ เรื่องสำคัญทางการตลาด

สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ทุกท่านจะต้องทำความเข้าใจให้ดีคือเรื่องต้นทุน และข้อจำกัดต่าง ๆ ในห่วงโซ่ทางการตลาด ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจำหน่าย เพราะจะส่งผลต่อการตั้งราคาน้ำหอม และการทำการตลาดน้ำหอม เพราะนอกจากต้นทุนที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาด เช่น ค่าเช่าที่ในการวางจำหน่าย ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างพนักงานขาย ค่าส่วนแบ่งกำไรให้กับผู้ขาย ค่าส่งสินค้า และที่สำคัญคือค่าภาษีต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ฯลฯ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์จึงต้องทำโครงสร้างราคาของสินค้าตัวเองให้ดี มิฉะนั้น อาจประสบภาวะ “ขายดีจนเจ๊ง” หรือ “เจ๊งตั้งแต่ยังไม่ได้ขาย” ได้ค่ะ

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารญาณในการตัดสินใจเป็นอย่างดี  

สอบถามราคาค่าผลิตน้ำหอม ปรึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์น้ำหอม ทักมาได้เลยค่ะ

มิ้ว 0635366995 เจ้าของแบรนด์น้ำหอมกัลยา