ในยุคข้าวยากหมากแพงที่ทุกคนกำลังมองหาอาชีพ มองหาช่องทางทำกิน หลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะขายอะไรดี จะทำธุรกิจอะไรดีถึงมีรายได้เสริม มีเงินมาจุนเจือครอบครัวเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มาของแนวคิดธุรกิจที่จะช่วยให้ผู้คนมีงานทำ แบบไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน และสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้ทั้งผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ขาย ซึ่งฤทัยรัตน์ ประสมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท งามดีช้อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า โมเดลนี้ก็คือธุรกิจเพื่อสังคม หรือ CSV (Creating shared value) นั่นเอง
“จุดเริ่มต้นมาจากที่ตัวเองได้เป็นคนเลือกน้ำหอมสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่โด่งดังยี่ห้อหนึ่ง จึงมีหัวน้ำหอมที่นำเข้าจากต่างประเทศมาเป็นจำนวนมาก ก็เลยนำมาพัฒนาต่อยอดภายใต้แนวคิดที่ว่า ถ้าเราสามารถทำธุรกิจที่เกิดการเอื้อประโยชน์ร่วมกัน ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริมให้คนอื่นก็น่าจะเป็นการดี จึงเกิดเป็นแบรนด์น้ำหอม กัลยาเพอร์ฟูม ขึ้นสำหรับผู้บริโภคที่อยากใช้น้ำหอมคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ “
“ตลาดน้ำหอมในบ้านเรามีหลายระดับ ตั้งแต่น้ำหอมแบรนด์เนมราคาแพงไปจนถึงน้ำหอมซีซีที่ขายกันทั่วไป กัลยาเพอร์ฟูม ถือเป็นตำแหน่งทางการตลาดที่อยู่ตรงกลางในเรื่องราคา แต่เรื่องคุณภาพนั้น เราเหนือกว่าด้วยการใช้หัวน้ำหอมแท้ นำเข้าจากฝรั่งเศสและอิตาลี มีใบรับรองส่วนผสมจากผู้ผลิต (Certificate of Ingredients) นำมาผสมในปริมาณเทียบเท่าเกรด Eau de perfume จึงให้ความหอมที่ติดแน่น ทนนาน กลิ่นไม่เพี้ยน มีให้เลือกมากกว่า 30 กลิ่น เราจึงให้คำนิยามผลิตภัณฑ์นี้ว่า น้ำหอมแบรนด์ไทย สไตล์ยุโรป”
น้ำหอมสร้างอาชีพ
“แนวคิดในการสร้างอาชีพของเราคือ ถ้าใครอยากขายน้ำหอมกัลยา เราให้ไปทดลองขายก่อนเลย 30 วันโดยไม่เก็บค่าสินค้า จากนั้นถ้าขายได้ก็ค่อยมาชำระค่าสินค้ากัน ส่วนที่เหลือถ้าอยากขายต่อก็ทำได้ หรือถ้าอยากจะคืนให้บริษัท เราก็ไม่ว่าอะไร วิธีนี้ ผู้ขายจะได้สินค้าไปขายแบบไม่ต้องลงทุน ไม่มีค่าเฟรนไชส์ ไม่มีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณขายได้เราก็จะเติบโตไปด้วยกัน บริษัท งามดีช้อปปิ้งมีหน้าที่สนับสนุนสินค้าคุณภาพดี ในราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และส่งเสริมด้านการตลาดให้ผู้ขายสามารถขายของได้ง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอน เรามีส่วนลดให้มากขึ้นตามจำนวนยอดสั่งซื้อ ไม่มีการขายปลีกแข่งกับร้านค้า เพราะเราถือว่าร้านค้าผู้จำหน่าย เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เราจะเติบโตไปด้วยกัน”
“ขณะนี้กัลยาเพอร์ฟูมกำลังอยู่ในช่วงทดลองตลาด เพื่อศึกษาความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อให้มั่นใจว่ารูปแบบธุรกิจที่กำลังดำเนินการนั้น สามารถเป็นไปได้จริง ๆ เป็นรูปแบบที่ไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้ง แต่หากผู้จำหน่ายของสามารถตั้งตัวได้ นั่นแหละ คือความสำเร็จที่แท้จริง ขณะนี้ เราทดลองขายกันแล้วที่กรุงเทพและปริมณฑล พิษณุโลก ลำปาง กำลังจะขยายไปภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ โดยขายตามหน้าร้านค้าน้ำหอม แผงค้าในตลาดนัด หรือร้านค้าย่อย ส่วนช่องทางออนไลน์ก็มีหน้าเพจใน Facebook/kanlayaperfume กับหน้าเว็บไซต์ www.kanlayaperfume.com เพื่อไว้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและร้านค้า เบื้องต้นเราจะเปิดรับพนักงานบริการลูกค้าแค่จังหวัดละ 1 คน จำนวน 50 จังหวัดทั่วประเทศเท่านั้น และจะเริ่มเปิดตัวแบรนด์ กัลยาเพอร์ฟูม อย่างเป็นทางการในราวปลายเดือนตุลาคม 2559 นี้”
“น้ำหอม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ซื้อง่ายขายคล่อง ใช้ได้ทั้งวัยรุ่น คนทำงานทั้งหญิงชาย และเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีผลข้างเคียงเลยก็ว่าได้ ซึ่งต่างจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่กว่าจะซื้อ กว่าจะใช้ กว่าจะเห็นผลยังต้องใช้ระยะเวลา แต่น้ำหอม แค่เปิดฝาดม กลิ่น ถูกใจก็สามารถซื้อได้ทันที”
แนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม หรือ CSV นี้ จึงไม่จำเป็นต้องเป็นงานการกุศล หรือมูลนิธิเสมอไป แต่หากธุรกิจนั้นตั้งมั่นอยู่บนปรัชญา ความเชื่อของการแบ่งปันคุณค่าในกิจการ เชื่อมั่นในศักยภาพของความเป็นมนุษย์ และนำมาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน ก็สามารถเป็นธุรกิจเพื่อสังคมได้ เฉกเช่น กัลยาเพอร์ฟูม
น.ส.พ. เดลินิวส์ 17 กันยายน พ.ศ. 2559 หน้า 12 คอลัมน์ งานค้นคน คนค้นงาน
[…] โดย ฤทัยรัตน์ ประสมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท […]
[…] บทความโดย ฤทัยรัตน์ ประสมทรัพย์ […]
[…] โดย คุณมิ้ว เจ้าของน้ำหอมกัลยา […]