แม่ลูกติวเอง ข่าวสาร

จักษุแพทย์เด็กกับการวัดสายตาเด็ก

แรกๆ ที่น้องใส่แว่นจะได้ยินผู้ใหญ่ๆ หลายๆ ท่านพูดว่า

“ยังเด็กอยู่เลยทำไมใส่แว่น”

“เล่นเกมส์เยอะใช่ไหมเลยต้องใส่แว่น”

แชร์ประสบการณ์ที่พ่อแม่ทุกคนต้องสังเกตลูกให้ดี

จักษุแพทย์เด็กกับการวัดสายตาเด็ก 1

ความเปลี่ยนครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก เราสังเกตเห็นความผิดปกติของการมองเห็นของลูกละ แต่นิ่งนอนใจ คิดว่าคงไม่เป็นอะไร

โรงเรียนมีจดหมายตรวจสุขภาพประจำปี แจ้งว่าน้องสายตาสั้น 100 ไม่มีเอียง แม่ก็คิดว่า 100 คงยังไม่ต้องใส่แว่น แล้ววันหนึ่งแม่เอาแว่นแม่ไปซ่อมที่ร้านแว่นแห่งหนึ่งบนห้างดัง จึงถือโอกาสให้ปุนลองตรวจสายตาโดยนักทัศนมาตร ซึ่งผลออกมาว่า น้องสายตาสั้นเล็กน้อย ยังไม่ต้องใส่แว่น แม่ก็โอเคยังไม่ดำเนินการอะไรต่อ

สักพักต่อมาบ้านเราจะเที่ยวกันบ่อย เวลาผ่านป้ายบอกทางต่างๆ พ่อจะชอบถามปุนว่าถึงไหนแล้ว ป้ายเขียนว่าอย่างไร ปุนจะตอบไม่ได้ ตอบไม่ทัน อาการนี้เรานึกว่า “ลูกอ่านไม่ออก” ก็แอบเสียงดังใส่ ซึ่งเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่เดินทาง

พฤติกรรมอีกอย่างที่สังเกตคือ ขยี้ตาบ่อยมาก และเวลามองจะหรี่ตามอง

จักษุแพทย์เด็กกับการวัดสายตาเด็ก 2

จนมาจุดคลายความสงสัย

ไปเที่ยวนครนายก ไปเที่ยวน้ำตก ให้เดินไปอ่านป้ายอีก ในระยะทางที่ตัวน้องยืนถึงป้าย เพียงมีถนนคั่นเท่านั้น แต่ปุนอ่านไม่ออก พ่อลองขยับให้เดินเข้าไปใกล้อีกนิด ก็ยังอ่านไม่ออก เดินเข้าไปอีก ก็ยังอ่านไม่ออก เลยเดินไปชิดป้ายเลย โอ้โห้….อ่านออกแล้ว

ที่จริง ไม่ใช่อ่านไม่ออก แต่มองไม่เห็น

แม่เป็นกังวลมาก ที่ผ่านมาลูกใช้ชีวิตยังไงนี้ ทำไม่บอก อยู่โรงเรียนมองเห็นรึเป่า?????

ปัญหามีไว้แก้ไข

1.ไปร้านแว่นตาในห้างใกล้บ้าน คนตัดแว่นบอกวัดสายตาเลย ผลออกมาว่าสั้น 3## , 1## สองข้างสั้นไม่เท่ากัน เจ้าหน้าที่บอกว่าตัดแว่นได้เลย ที่ร้านเค้ามีเด็กมาตัดเยอะ แต่เรายังไม่ได้ตัดแว่นเพราะอยากลองวัดสายตาอีกครั้ง

2.ไปร้านแว่นตาในห้างใกล้บ้านเช่นเดิม แต่คนละที่กันนะ ไปถึงที่ร้านเจ้าหน้าบอกว่า ถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 12 ต้องมีใบค่าสายตาจากแพทย์ถึงจะตัดได้

3.เราไปโรงพยาบาลใกล้ห้าง ไปหาหมอตาสำหรับเด็ก (จักษุแพทย์เด็ก) ซึ่งวันและเวลาที่เราไปไม่มีหมอตาเด็กลง เราจึงนัด นัดได้เป็นอีกสัปดาห์เลย

4.กลับมาบ้าน หลังจากไปทัศนะศึกษา บอกว่าเวียนหัว เมารถ และต่อมาก็ยังเวียนหัว และอ้วกหนักมาก ทานอะไรไม่ได้เลย นอนอย่างเดียว บอกหนักหัวมาก น่าสงสารมาก ในวันรุ่งขึ้น จึงโทรไปนัดหมอตาเด็ก เพราะคิดว่าน่าจะเป็นสายตาแน่ๆ โรงพยาบาลใกล้บ้าน และได้พบหมอตาเด็ก (จักษุแพทย์เด็ก)

5.หมอตาเด็ก (จักษุแพทย์เด็ก) ทำการตรวจสายตา แบบละเอียดมาก แม่แอบสังเกตการณ์ ปุนตรวจประมาณ1ชั่วโมง หมอใส่ค่าสายตาแต่ละอันแตกต่างกัน และใส่เข้า ถอดออก หลายรอบมากกก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถามจนกว่าจะมั่นใจว่าเห็น และเห็นชัดจริงๆ และได้รับค่าสายตามา คุณหมอดุแม่ว่าทำไมปล่อยให้ลูกสายตาสั้นเลยอะ ไม่รีบมา และพบว่าสาเหตุที่ขยี้ตาบ่อยๆๆ เป็นเพราะปุนเป็นภูมิแพ้ตา ทำให้ตาอักเสบนิดหน่อย

6.ตัดแว่นที่ร้านในโรงพยาบาลเลยค่ะ เพราะเราไม่มั่นใจร้านแว่นข้างนอกแล้ว และมีกรอบแว่นเด็กให้เลือกเยอะด้วย ปุนเลือกกรอบแว่นด้วยตัวเอง เป็นแบบกรอบแว่นสามารถยืดหยุ่นได้ ไม่หัก (ราคาแว่นพร้อมกรอบประมาณ 3,900 บาท) ตัดแล้วยังไม่ได้แว่นนะคะ ต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน เค้าถึงจะโทรให้ไปรับแว่นได้

7.ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 ปุนถึงจะปรับตัวให้เข้ากับแว่นได้ ในช่วงแรกก็ถอดเข้าถอดออก ยังหาระยะที่พอดีไม่ได้ ครอบครัวต้องคอยให้กำลังใจเค้านะคะ เพราะค่อนข้างเป็นอะไรที่ใหม่กับเค้ามาก

8.สุดท้าย แว่นก็เป็นอีกอวัยวะของปุนไปเลย เพราะขาดแว่นไม่ได้เลย ขนาดอาบน้ำยังใส่แว่นเลย

“รู้อย่างนี้ให้แม่พาตัดแว่นตั้งนานละ เห็นชัดมากก”…ปุน

จักษุแพทย์เด็กฝากมาบอกผู้ปกครองท่านอื่น ว่าถ้าลูกอายุไม่ถึง 12 ปี ถ้าสะดวกให้พามาวัดค่าสายตากับจักษุแพทย์ เพราะเด็กมีค่าสายตาหลอกอยู่ ถ้าค่าสายตาไม่ตรงอาจจะผลเสียกับลูกมากกว่าผลดี

จักษุแพทย์เด็กกับการวัดสายตาเด็ก 3

แม่พาน้องไปหาหมอตาเด็กที่โรงพยายาลวิชัยยุทธ

คุณหมอสภา ดุรงคเวโรจน์

เก่งมาก ใจเย็น และใจดีมาก

ตอนแรกเค้าไม่มั่นใจนะ ใส่แว่น กลัวไม่หล่อ

แต่พ่อกับแม่พยายามสร้างความมั่นใจให้เค้า

จักษุแพทย์เด็กกับการวัดสายตาเด็ก 4

น้องสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้แบบปกตินะคะ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล

ให้ความรู้ส่งท้ายเกี่ยวกับการวัดสายตาเด็ก

การวัดค่าสายตาเด็กโดยจักษุแพทย์เด็กเพื่อให้ได้ความแม่นยำสูงนั้น จะมีความแตกต่างจากการตรวจในผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถให้ความร่วมมือในการตรวจได้ดี และยังมีภาวะ “การเพ่ง” (Accommodation) ที่สูงมาก ซึ่งส่งผลให้ค่าสายตาที่วัดได้คลาดเคลื่อน จักษุแพทย์เด็กจึงต้องใช้วิธีพิเศษเพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แท้จริง

หัวใจสำคัญของความแม่นยำในการวัดสายตาเด็กคือ การใช้ยาหยอดตาเพื่อคลายการเพ่งและขยายม่านตา


1. ขั้นตอนสำคัญในการวัดค่าสายตาเด็กโดยจักษุแพทย์

โดยทั่วไป ขั้นตอนการวัดสายตาเด็กโดยจักษุแพทย์เด็ก เพื่อความแม่นยำ จะมีดังนี้:

1.1 การประเมินและการทดสอบเบื้องต้น

  • ซักประวัติ: สอบถามเกี่ยวกับพัฒนาการการมองเห็น อาการผิดปกติที่สังเกตได้ (เช่น เอียงคอ หรี่ตา กระพริบตาถี่) และประวัติครอบครัว
  • ทดสอบการมองเห็น (Visual Acuity):
    • เด็กเล็ก/ยังไม่รู้ตัวอักษร: ใช้แผ่นภาพพิเศษ (เช่น รูปภาพ, สัญลักษณ์ Lea Chart หรือ Teller Acuity Cards สำหรับทารก) หรือสังเกตปฏิกิริยาต่อแสงและวัตถุ
    • เด็กโต: ใช้แผ่นตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่เหมาะสมตามวัย
  • ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา (Motility) และภาวะตาเข (Strabismus): ตรวจดูการเคลื่อนไหวและการทำงานร่วมกันของดวงตาทั้งสองข้าง
  • ตรวจการมองเห็นภาพ 3 มิติ (Stereopsis): ประเมินพัฒนาการในการรับรู้ความลึก

1.2 การใช้ยาหยอดตาเพื่อคลายการเพ่ง (Cycloplegic Refraction)

นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำที่สุดในเด็ก

  • หยอดยา: จักษุแพทย์จะหยอดยาที่มีฤทธิ์ในการ คลายการเพ่ง (Cycloplegia) และ ขยายม่านตา (Mydriasis) ให้เด็ก (อาจจะต้องหยอดซ้ำหลายครั้ง)
  • รอเวลา: ต้องรอเวลาประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ยาออกฤทธิ์เต็มที่ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเพ่งสายตาคลายตัว ทำให้ไม่สามารถเพ่งชดเชยค่าสายตาได้
  • วัดค่าสายตาจริง: เมื่อการเพ่งถูกคลายแล้ว จักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือวัดค่าสายตาอัตโนมัติ (Auto Ref-Keratometer) หรือเลนส์ทดสอบ (Retinoscope) เพื่อวัดค่า สายตาสั้น (Myopia), สายตายาว (Hyperopia) และ สายตาเอียง (Astigmatism) ที่แท้จริง

1.3 การตรวจสุขภาพตาโดยละเอียด

  • ตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Slit Lamp): ตรวจดูส่วนด้านหน้าของดวงตา เช่น เปลือกตา กระจกตา และเลนส์ตา
  • ตรวจจอประสาทตาและขั้วประสาทตา: เมื่อม่านตาขยายตัวเต็มที่ แพทย์จะสามารถตรวจดูส่วนด้านในของดวงตาได้อย่างละเอียดเพื่อคัดกรองโรคตาอื่น ๆ ที่อาจมี

2. ทำไมต้องใช้ยาหยอดตา (ความแม่นยำพิเศษ)

เนื่องจากเด็กมีกำลังการเพ่ง (Accommodation) ที่สูงและแข็งแรงมาก หากไม่มีการหยอดยาคลายการเพ่ง เด็กอาจ:

  1. เพ่งชดเชยสายตายาว: ทำให้วัดค่าสายตายาวจริงได้ต่ำกว่าความเป็นจริง หรือบางครั้งวัดออกมาเป็นสายตาปกติหรือแม้กระทั่งเป็นสายตาสั้น
  2. เพ่งเพิ่มสายตาสั้น: ทำให้ค่าสายตาสั้นที่วัดได้สูงกว่าความเป็นจริง

การใช้ยาหยอดตาจึงช่วย “ปิด” การเพ่งของเด็ก ทำให้จักษุแพทย์สามารถวัด “ค่าสายตาที่แท้จริง” ที่จำเป็นต่อการวินิจฉัย ภาวะตาขี้เกียจ (Amblyopia) หรือกำหนดค่าแว่นตาที่ถูกต้องเพื่อพัฒนาการมองเห็นของเด็ก


หมายเหตุ: หลังการตรวจ เด็กจะมีอาการตาพร่ามัวและแพ้แสงชั่วคราวจากฤทธิ์ของยาขยายม่านตา ผู้ปกครองควรเตรียมแว่นกันแดดมาให้เด็กใส่หลังการตรวจค่ะ